กล่าวชื่นชม ผวจ.นม. ที่นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบัติถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว เป็นแนวคิดที่ดี

ประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา รายงานว่า ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา มาบรรยายพิเศษที่จังหวัดนครราชสีมา ได้กล่าวชื่นชมผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาสู่การปฏิบัติให้เกิดผลตามแนวพระราชดำริ เป็นจังหวัดแรกของประเทศ

วันนี้ ( 22 เมษายน 2554 ) ตั้งแต่เวลา  09.00 – 11.30 น. ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ได้มาบรรยายพิเศษ เรื่อง “ปวงประชาชาว พสกนิกร น้อมนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาเป็นวิถีชีวิต ถวายพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา” ที่หอประชุมเปรมติณสูลานนท์ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา

นายระพี  ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวต้อนรับว่า ด้วยวันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เป็นวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัฐบาลได้มอบหมายให้ทุกส่วนราชการ จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสดังกล่าว จึงเกิดแนวคิดว่าครั้งหนึ่งได้ทำงานถวายฯในวโรกาสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เจริญพระชนมายุ 60 พรรษา คือ การสร้างเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่จังหวัดสระบุรี เมื่อครั้งเป็นนายอำเภอ ประดุจเป็นของขวัญถวาย ดังนั้นในปีนี้มาถึงวโรกาสครบรอบ 7 รอบ 84 พรรษา จะทำโครงการใหญ่คงไม่ทัน จึงคิดนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานสู่ประชาชนของพระองค์ จึงนำแนวพระราชดำริมาเป็นโครงการให้ชาวนครราชสีมานำมาเป็นวิถีชีวิต ถวายพระเจ้าอยู่หัว 84 พรรษา พร้อมกำหนดจัดกิจกรรมใหญ่ Kickoff โครงการฯ ด้วยการลงนามคำรับรอง หรือ MOU (เอ็ม โอ ยู) ของทุกส่วนราชการในจังหวัดนครราชสีมา และทำการมอบเอกสารคำรับรองแด่ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ใว้เป็นสักขีพยาน เมื่อเสร็จสิ้นการบรรยายแล้ว โดยจังหวัดนครราชสีมา มุ่งมั่นจว่าการปฏิบัติฯนี้ “เป็นของขวัญถวายแด่พระเจ้าอยู่หัวปีนี้”

ในการบรรยาย ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวชื่นชม นายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นม. ที่นำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มาสู่การปฏิบัติถวายแด่พระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว โดยกล่าวว่า ขอชื่นชมที่สามารถหยิบยกขึ้นมาสร้างความสำคัญ เหมาะสมอย่างยิ่งที่จะถวายเป็นของขวัญแด่พระเจ้าอยู่หัว เพราะเป็นการปฏิบัติที่เกิดประโยชน์ ทั้งต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม ประเทศชาติ และพระเจ้าอยู่หัว พร้อมยังบอกอีกว่า จะส่งตัวชี้วัดความสำเร็จมาให้เพื่อเป็นแนวทางการปฏิบัติประสบผลสำเร็จที่แท้จริง

เนื้อหาการบรรยาย ดร.สุเมธ ได้เน้นว่าการดำรงชีวิต ตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงนั้นไม่ยากเพียงแต่ให้ยึดหลักธรรมะ 2 ประการ คือ ธรรมชาติ กับธรรมดา ดูตัวเราเองแล้วอยู่ตามอย่างพอประมาณ เอาใจเป็นกำหนดอย่างมีเหตุผล และสร้างภูมิคุ้มกันให้ตัวเอง อย่างให้กิเลสเป็นตัวนำทาง คือ อยากมี อยากได้ อยากกิน แล้วไปตามใจตัวเอง พร้อมยังชี้ว่า ประเทศไทย จะไปเป็นประเทศนิกส์ หรืออุตสาหกรรมอย่างที่เคยประกาศไม่ได้ เพราะประเทศไทย มีความเชี่ยวชาญและเป็นที่หนึ่งในด้านการเกษตร ไม่ว่าการปลูกข้าว หรือผลไม้ อีกทั้งในอนาคตของโลก ประเทศที่อยู่รอด คือ ประเทศที่ผลิตอาหาร ประเทศไทยต้องยึดประเทศเกษตรกรรมไว้

สำหรับในความหมายของคำว่าพอเพียง/พอดี  แบ่งไว้ 5 อย่าง คือ

1. ความพอเพียง/พอดีด้านจิตใจ คือมีใจเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้ มีจิตสำนึกที่ดี มองโลกอย่างสร้างสรรค์ เอื้อเฟื้อ ประณีประนอม

2. ความพอเพียง/พอดีด้านสังคม คือช่วยเหลือกัน รู้รักสามัคคี สร้างความเข้มแข็งในครอบครัว/ชุมชน ยึดประโยชน์ของส่วนรวม

3. ความพอเพียง/พอดีด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ รู้จักใช้อย่างฉลาด เลือกใช้ให้เกิดอย่างยั่งยืน และรักษาฟื้นฟู เกิดประโยชน์สูงสุด

4. ความพอเพียง/พอดีด้านเทคโนโลยี คือ รู้จักใช้อย่างพอเหมาะกับความจำเป็น และพัฒนาเทคโนโลยีจากภูมิปัญญาชาวบ้าน

5. ความพอเพียง/พอดีด้านเศรษฐกิจ คือ มุ่งลดรายจ่าย ยึดหลักพออยู่ พอกิน พอใช้ ใช้จ่ายไม่เกินตัว ไม่ก่อหนี้ใหม่ หารายได้เพิ่ม และบริหารความเสี่ยงได้

ในการบรรยาย ใช้เวลา 2 ชั่วโมงเศษ นั้น สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศจังหวัดนครราชสีมา และเคเบิ้ลทีวี ( KCTV ) ถ่ายทอดสดตลอดการบรรยาย รวมทั้งมีการบันทึกเทปเพื่อจะนำเผยแพร่ทาง สทท. 11 หรือ NBT ต่อไปด้วย    โดยมีส่วนราชการและประชาชนผู้สนใจรับฟังเต็มห้องวประชุมเปรมติณสูลานนท์